04 กรกฎาคม 2552

ทวงคืนดีสเตชั่น ทวงคืนประชาธิปไตย?

ทวงคืนดีสเตชั่น ทวงคืนประชาธิปไตย?

กลุ่ม ผู้สวมเสื้อแดงเป็นสัญญลักษณ์เรียกตัวเองว่าผู้รักประชาธิปไตย มีการนัด หมายชุมนุมอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ ที่ลานพระบรม รูปทรงม้า โดยเป้าหมายอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล และวัตถุประสงค์คือ การเรียก ร้องให้รัฐบาลเปิดสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น สื่อกลางระหว่างคนเสื้อแดงที่ยัง คงยึดมั่นเชื่อมั่นในระบอบทักษิณ หลังจากที่ถูกปิดลงตั้งแต่วัน ที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ตามคำสั่งในพระราชกำหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน

ความเคลื่อนไหวที่ระบุว่า "ทวงคืนดีสเตชั่น" นั้น กลุ่มเสื้อแดงนอก จากให้เหตุผลตามหลักการของสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ของ ประชาชน และเสรีภาพของสื่อสารมวลชน ว่าการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารย่อมหมาย ถึงการปิดหูปิดตาประชาชน การละเมิดสิทธิในการทำหน้าที่ของ "สื่อ" ก็เท่า กับละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนแล้วนั้น ประเด็นที่น่าสนใจคือ การตั้งคำ ถามกับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ใช้ 2 มาตรฐานในการบริหาร จัดการ "สื่อ" โดยกล่าวอ้างตั้งข้อสังเกตว่า มีการเลือกปฏิบัติกับดีสเตชั่นในขณะที่สถานีของคนใส่เสื้อ เหลือง หรือ "เอเอสทีวี" ยังคงให้บริการตามปกติทั้งๆ ที่เป็นสถานีช่อง การเมือง และเคยปลุกระดมมวลชนมาก่อน

ประเด็นการเลือกที่รักมักที่ชังระหว่างดีสเตชั่นกับเอเอสทีวี ซึ่งกลุ่ม เสื้อแดงหยิบยกมาเป็นจุดขับเคลื่อนการชุมนุมในรอบนี้ จึงจำเป็นอย่างมากที่ รัฐบาลจักต้องให้ความรู้ สร้างความเข้าใจให้สังคมทุกฝ่ายได้ตระหนักรับรู้ ว่าจริงเท็จเพียงใด และเพียงพอหรือไม่กับคำอธิบายความแตกต่างของสถานี โทรทัศน์ของคนเสื้อแดงกับ เสื้อเหลือง ว่าเกิดจากการใช้กฎหมายคนละฉบับในการพิเคราะห์พิจารณา เพราะที่มาและการเกิดของสถานีโทรทัศน์ทั้งสองแห่งนั้นไม่เหมือนกัน เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ดีสเตชั่นได้รับการปฏิบัติผิดแผกจากกรณีของเอเอส ทีวี

รัฐบาลหรือแม้แต่ กทช.สมควรต้องให้ข้อมูลข่าวสารกับคนในสังคมด้วย ว่า ความแตกต่างของระบบการดำเนินการสถานีโทรทัศน์ทั้งสองแห่ง ที่ทำให้เอ เอสทีวีอยู่ในอำนาจการจัดการของกรมประชาสัมพันธ์ แต่ดีสเตชั่นอยู่ภายใต้ การกำกับดูแลของคณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช.นั้น ไม่สำคัญเท่า กับเนื้อหาสาระหรือข่าวสารที่แพร่กระจายสู่สังคมของดีสเต ชั่น ที่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เพราะตลอดเวลาของ การเปิดสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น สถานีแห่งนี้ปลุกระดม ยุยง ส่ง เสริม สร้างความแตกแยกและความวุ่นวายในสังคมไทย จนถึงขั้นก่อจลาจลในบ้านเมือง โดยมีนักโทษหนีคุกอย่างทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้สั่งการนั่นเอง



ฉะนั้น การทวงคืนดีสเตชั่น ด้วยข้ออ้างว่าเป็นการทวงคืน ประชาธิปไตย หรือตั้งข้อกังขาว่าเพราะรัฐบาลมี 2 มาตรฐานในการปฏิบัติต่อ คนเสื้อแดงและเสื้อเหลืองนั้น จึงเป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้น และคงจะทำให้ รัฐบาลยอมรับไม่ได้ และหนีไม่พ้นต้องโยนกลองไปให้ กทช.เป็นผู้รับผิดชอบ พิจารณาอย่างแน่นอน ทั้งนี้ เนื่องมาจากกฎหมายที่บังคับใช้ใน ปัจจุบัน บ่งชี้อย่างชัดเจนถึงกระบวนการความรับผิดชอบของ กทช. ที่ต้อง แสดงความกล้าหาญในการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง หากไม่ต้องการเห็นเครื่อง มือสื่อโทรทัศน์กลายเป็นช่องทางในการทำร้ายประเทศ ไทยอย่างที่ปรากฏมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารจัดการสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น ก็ยังมีสิทธิที่ จะร้องขอให้ กทช.ทบทวนได้ ทั้งนี้ภายใต้เงื่อนไขที่จะสามารถรับรองการันตี ว่า จะไม่ใช้สถานีแห่งนี้ ละเมิดประมวลกฎหมายอาญาตามมาตรา 116 เฉกเช่นที่ผ่านมา เพราะต้องไม่ลืม ว่า ประชาธิปไตยต้องมีขอบเขตและเคารพกฎหมาย มิใช่กระทำใดๆ ตาม อำเภอใจ แล้วเมื่อถูกขัดใจแล้วก็โวยวายว่า ถูกจำกัดสิทธิ ทั้งนี้ หากดี สเตชั่นยึดมั่นในหน้าที่ความรับผิดชอบของการเป็นสื่อเพื่อสังคมและ ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง มิใช่รับใช้นายทุนคนใดคนหนึ่งเป็นสื่อเฉพาะ กิจ เชื่อว่า กทช.หรือรัฐบาลไหนก็ไม่กล้าแทรกแซงหรือใช้อำนาจปิดสถานี โทรทัศน์อย่างแน่ นอน หรือถ้ารัฐบาลกระทำเช่นนั้นจริง ประชาชนคนไทยก็จะร่วมทวงคืนดีสเต ชั่น โดยไม่ต้องจ้างวานใคร..รับรอง.

บทบรรณาธิการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น