19 มีนาคม 2552

ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข

....บทความมาใหม่ที่น่าสนใจ...

ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เป็นเพียงความฝันที่แสนสั้น

วัน ที่ 30 กันยายน ของทุกปี ถือได้ว่าเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของคนไทย โดยเฉพาะผู้ที่มีอาชีพรับราชการ วันเกษียณอายุราชการ เป็นวันสุดท้ายของการทำงาน ความสุข ความสำเร็จ ลาภ ยศ สรรเสริญ ที่เคยได้รับจะจากไป มีแต่ความดีที่ยังอยู่ในความทรงจำของคนที่เคยร่วมงานกันมาเท่านั้น เราจึงต้องยอมรับความเป็นจริงของชีวิตและพร้อมที่จะเผชิญกับสิ่งต่างๆ ที่เข้าในชีวิตอย่างมีสติ รักษาสุขภาพจิตและสุขภาพกายให้สมบูรณ์แข็งแรงเพื่อชีวิตที่ยืนนานต่อไป พร้อมๆกับการสร้างบุญกุศลให้ทับทวีเพิ่มมากขึ้น

การทำใจให้รู้เท่าทันกับสิ่งที่เคยมี เคยเป็น เคยได้รับ กำลังจะแปรเปลี่ยนไปนั้น จะทำให้เรารู้จักตัวเองดีขึ้น รู้เท่าทัน เข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์ จะได้ไม่ทุกข์ใจ โกรธ หรือขุ่นเคืองใจถ้าบังเอิญเห็นคนที่เคยเป็นลูกน้อง เคยอยู่ใต้บังคับบัญชาเดินผ่านมาแล้วไม่ยกมือไหว้ ไม่ทักทายเรา หรือยกมือไหว้อย่างขอไปทีด้วยมารยาทแล้วเดินเลี่ยงหนีไป ในทางตรงข้ามเราควรใช้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นครูสอนเรา ให้เรามองย้อนกลับไปหาอดีต เมื่อเรายังมีอำนาจวาสนาอยู่นั้นเราได้ให้ความยุติธรรมแก่เขาไหม เคยดูถูกเหยียดหยามในความสามารถของเขาหรือเปล่า เคยใส่ใจเอื้ออาทรทุกข์-สุขของเขาเหล่านั้นหรือไม่ หรือหลงระเริงกับคนที่ประจบสอพอ เดินตามหน้าตามหลัง หรือเราเป็นคนตระหนี่ จะให้ความก้าวหน้าผู้ใต้บังคับบัญชาคิดแล้วคิดอีก บวก ลบ คูณ หาร อยู่นั่นแหละกลัวเสียเปรียบ จะเลื่อนระดับให้ก็กลัวว่าลูกน้อง จะได้ใจ หัวแข็ง ปกครองยาก จะให้ 2 ขั้นก็กลัวว่าลูกน้องจะมีเงินมากกว่า ตัวฉันเองยังไม่เคยได้ 2 ขั้นเลย เพราะฉะนั้นก็อย่าให้ดีกว่า คิดแบบคนใจแคบ มองอะไรแคบๆ จะให้ความดีความชอบกับคนใกล้ๆ ตัวเท่านั้น คิดแบบนี้เรียกได้ว่าเป็นผู้ไม่รู้จักใช้โอกาสที่ดีของตนให้มีคุณค่าต่อตน เอง การสร้างบุญบารมี บุญกุศลต้องสร้างด้วยตนเอง ไม่มีใครทำแทนให้กันได้ อีกทั้งยังต้องใช้เวลาในการสั่งสมบารมีอีกด้วย

วิลเลี่ยม เชสเปียร์ กวีเอกของโลกได้กล่าวไว้ว่าคนเรานี้จะไม่มีวันที่จะจากหายไป แต่จะยังอยู่ในความทรงจำเสมอคุณจะเป็นคนดีหรือเลว ความดีหรือเลวนี้ก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของคน ถึงแม้ว่าคุณจะตายจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม เราลองสำรวจตัวเองดู จะรู้จักตัวเองมากขึ้น ถ้าเราเป็นผู้บังคับบัญชาที่ดีมาตลอด สนับสนุนเขาตามความเหมาะสม การเป็นผู้มีความยุติธรรม มีธรรมะประจำใจเป็นคุณสมบัติที่สำคัญในการเป็นผู้บังคับบัญชาที่ดี ถ้าเราเกษียณอายุไปแล้วผู้เคยอยู่ใต้บังคับบัญชาแสดงกิริยามารยาทไม่เคารพ เราเหมือนเดิม เราต้องทำใจ ปลงเสียว่าโลกก็เป็นเช่นนี้แหละ! เราทำดีที่สุดแล้ว จะได้ไม่ทุกข์ใจ ขุ่นเคืองใจ น้อยใจ หรือเศร้าโศกเสียใจ

ท่านผู้ใดเกษียณอายุในหน้าที่การงานแล้วยังยอมรับการเปลี่ยนแปลง ของชีวิตไม่ได้ ลองอ่านนิทานพงศาวดารจีนที่เล่าสืบกันมาเป็นเวลายาวนานต่อไปนี้เพื่อเป็นแนว คิดให้กับตนเอง

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน เรื่องมีอยู่ว่า มีนักศึกษาชายคนหนึ่งมีฐานะยากจนมากชื่อ หลูเชิง อาศัยอยู่ที่โรงเตี้ยมแห่งหนึ่ง เขานั่งรำพึงรำพันในความลำบากยากจนของตนเองอยู่ บังเอิญมีนักบวชคนหนึ่งได้ยินเสียงถอนหายใจพร่ำบ่นถึงความอาภัพอับโชคของหลู เชิง เกิดความสงสารจึงมอบหมอนให้ใบหนึ่งแล้วบอกว่า ถ้าเขาใช้หมอนใบนี้หนุนนอนชีวิตเขาจะพบแต่สิ่งที่ดีๆ สมความปรารถนา

ในขณะนั้นเจ้าของโรงเตี้ยมกำลังหุงข้าวเกาเหลียง (ข้าวพันธุ์หนึ่งของจีน) อยู่นั้น หลูเชิงหลับไป นอนฝันไปว่า เขาได้เดินทางไปยังเมืองๆ หนึ่ง แล้วได้พบและแต่งงานกับสาวงามคนหนึ่ง ประสบความสำเร็จในการทำงานเพียบพร้อมด้วยยศฐาบรรดาศักดิ์ มีเงินทองมากมาย มีบุตรชายเป็นคนดี มีความสามารถ เขามีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขสมบูรณ์ทุกอย่างเป็นเวลาถึง 50 ปี จึงล้มป่วยและเสียชีวิตลง เมื่อฝันมาถึงตรงนี้เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมา มองไปที่เจ้าของโรงเตี้ยมซึ่งกำลังหุงข้าวเกาเหลียงยังไม่ทันสุกอยู่และนัก บวชคนที่ให้หมอนเขานั้นก็ยังนั่งอยู่ใกล้ๆ เขาจึงคิดได้ว่า การที่เขาได้เกียรติยศ-ชื่อเสียง เงินทองมากมาย เพรียบพร้อมด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญ ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างมากเป็นเวลา 50 ปีนั้น แท้จริงแล้วมันเป็นเพียงความฝันช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้นเอง

เขาจึงได้ข้อคิดว่า ชีวิตคนเรานี้แสนจะสั้น สิ่งที่มนุษย์เราต่างดิ้นรนแสวงหา ไขว่คว้าในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเกียรติยศ ชื่อเสียง ความมั่งมีศรีสุข ลาภยศ สรรเสริญนั้น ท้ายสุดเป็นเพียงความฝันที่แสนสั้น

นิทานพงศาวดารจีนเรื่องนี้ จึงเป็นอุทาหรณ์สอนใจ ไม่ให้เรายึดติดในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ขณะที่ยังไม่เกษียณอายุ มีอำนาจวาสนา มีผลประโยชน์ให้ มีข้าทาส บริวาร ผู้ใต้บังคับบัญชามากมาย คอยเอาอกเอาใจ มีแต่คำยกยอปอปั้น ทำให้หัวใจพองโตมีความสุขอย่างล้นเหลือ แต่เมื่อใดเกษียณอายุก็จะเข้าใจใน โลกธรรม 8” สัจธรรมของ พระพุทธองค์ ที่ว่า

มี ลาภ ก็มี เสื่อมลาภ

มี ยศ ก็มี เสื่อมยศ

มี สรรเสริญ ก็มี นินทา

มี สุข ก็มี ทุกข์ คู่กันไปเสมอ

ถ้ามองย้อนหลังไปดูชีวิตในอดีตที่ผ่านไปแล้ว ทบทวนดู จะเข้าใจในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ที่ไขว่คว้า ต่อสู้เอามาเป็นของตนนั้น แท้จริงเป็นเพียงความฝันที่แสนสั้น จะเข้าใจในความไม่เที่ยงของชีวิต ดังคำสอนของพุทธองค์ที่ว่า สรรพสิ่งทั้งหลาย เมื่อเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไปในที่สุด เมื่อมีอำนาจวาสนาอยู่ควรสร้างสมบารมี คุณงามความดีไว้ให้มากๆ เวลาที่ผ่านไป ไม่มีวันหวนคืนกลับมา เสื้อนอกที่โก้หรูที่กำลังใส่อยู่นี้ เบื้องบนให้ยืมใส่ อีกไม่นานก็ต้องถอดคืนกลับไป อำนาจวาสนาที่ให้มานั้นไม่ได้ติดตัวไปตลอดชีวิต ทุกอย่างมีเวลาจำกัด จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด บั้นปลายชีวิตจะได้หันกลับมามองชีวิตที่ผ่านมาอย่างมีความสุข และภาคภูมิใจในโอกาสดีๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

ผู้แต่ง นิภา ผ่องพันธ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น