26 ตุลาคม 2552

การศึกษาข้อเท็จจริงและผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมจากปรากฏการณ์ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกตัว

ข้อมูลจากคุณ win ครับ

ทฤษฎีที่โด่งดังมากสุดคงต้องยกให้กับคำทำนาย ที่ว่า โลกบูดเบี้ยวใบนี้จะแตกดับในวันที่ 21 ธ.ค. 2012 หรืออีกแค่ 5 ปีข้างหน้า...ด้วยชุดเลขสวย 212012
ทฤษฎีนี้คิดค้นขึ้นโดยชนเผ่ามายัน วันดังกล่าวถือเป็นวันสิ้นสุดปฏิทินลอง เคาต์ (Long Count) หรือ ปฏิทินลำดับที่ 3 ของชาวมายัน โดยปฏิทินลอง เคาต์ เล่มล่าสุดนั้น เริ่มต้นในปี 3114 ก่อนคริสตกาล และจะดำเนินต่อเนื่องเป็น 13 รอบบักตุน (baktun) กินเวลาทั้งสิ้นราว 5,126 ปี บวกลบออกมาแล้วก็ตรงกับปี 2012 พอดิบพอดี

การเริ่มต้นของ 13 รอบบักตุน เรียกได้อีกอย่างว่า อาทิตย์ดวงที่ 5 ซึ่ง ช่วงเวลาดังกล่าวจะเวียนมาบรรจบเพื่อก่อกำเนิดดวงอาท ิตย์ครบ 5 ดวง ในวันที่ 21 ธ.ค. 2012 โดยคำทำนายระบุเอาไว้ว่า ในวันนั้นโลกจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬาร ไล่เรียงตั้งแต่ภัยธรรมชาติที่จะทำลายทุกสิ่งไปจนถึง สงครามอภิมหาโลกาวินาศ จนไม่มีมนุษย์คนใดมีชีวิตรอด ซึ่งอย่างหลังนี้อาจเชื่อมโยงได้กับทฤษฎีสงครามโลกคร ั้งที่ 3 ของนอสตราดามุส โหราจารย์ชื่อก้อง

สถานการณ์น่าระทึกในวันอวสานโลก ข้างต้นตามจินตนาการข อง อง โคลด โคเวน นักเขียนหนังสือแนวอภิปรัชญาชาวฝรั่งเศส บรรยายว่า ให้นึกถึงภาพตัวเองอยู่ในสถานีรถไฟอันแออัดตอนเช้า แล้วทันใดนั้นก็เกิดเหตุโกลาหลครั้งใหญ่ทั้งธรรมชาติ แปรปรวนและระบบ คอมพิวเตอร์หรือระบบควบคุมการทำงานของเครื่องจักรเคร ื่องยนต์ต่างๆ ขัดข้อง จนเป็นเหตุให้ขบวนรถไฟในชานชาลาพากันวิ่งออกไปคนละทิ ศ คนละทาง คล้ายกับซี่วงล้อเกวียน

ในสถานการณ์อันเลวร้ายเช่นนั้นยังกดดันให้ คุณจำเป็นต้องเลือกขึ้นรถไฟสัก ขบวน อย่างน้อยก็ยังรอดจากการโดนรถไฟทับตาย แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่คุณไม่มีทางรู้เลยว่า รถไฟขบวนที่หลับหูหลับตาขึ้นไปนั้นจะพาคุณไปไหน

น่าแปลกที่นอกจาก 212012 จะเป็นวันสุดท้ายของปฏิทินชนเผ่ามายันแล้ว ยังมีข้อมูลทางดาราศาสตร์ที่ระบุไว้ว่า จะ เกิดพลังงานลึกลับที่จะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล โดยในเวลาที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากที่สุดในช่วง ฤดูหนาวของปี 2012 นั้น ดวงอาทิตย์จะอยู่ในระนาบเดียวกับใจกลางของทางช้างเผื อกเป็นครั้งแรกในรอบ 2.6 หมื่นปี ซึ่งหมายความว่า พลังงานทุกประเภทจากใจกลางของทางช้างเผือกจะถาโถมและ เกิดการปะทะกับพลังงาน ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นของโลกในวันที่ 21 ธ.ค. 2012 เวลา 23.11 น. (11.11 pm ตามเวลาสากล)

สมมติว่า มีมนุษย์เหลือรอดบนโลก ก็ไม่อาจรู้ว่าจะจำตัวเองได้หรือไม่ เนื่องจากพลังงานทั้งหลาย แหล่ข้างต้นจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ ดีเอ็นเอ นำมาซึ่งการกลายพันธุ์ หรือสรุปคร่าวๆ ได้ว่า ถึงตอนนั้นโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง คนที่รอดต้องดิ้นรนสร้างสิ่งต่างๆ นับจากศูนย์

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลทางธรณีวิทยาที่ชี้ว่า ปี 2012 คือปีที่ซูเปอร์โวลคาโน หรือภูเขาไฟใต้น้ำครบกำหนดเวลา 7.4 หมื่นปีที่จะทำลายหรือระเบิดตัวเอง โดยสัญญาณเตือนภัยครั้งล่าสุด คือ โศกนาฏกรรมคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2004 ที่บอกให้ชาวโลกรู้ว่า โครงสร้างพื้นผิวโลกได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และการระเบิดของซูเปอร์โวลคาโนอาจไม่ใกล้ไม่ไกลบริเว ณที่เคยเกิดสึนามิมา ก่อน

และเป็นที่น่าสังเกตว่า ระยะหลังมานี้ เกิดเหตุแผ่นดินไหว ดินถล่ม และน้ำในแม่น้ำหรือทะเลสาบเหือดแห้งบ่อยครั้งทั่วโลก เป็นไปได้ที่ส่วนหนึ่งเกิดจากภาวะโลกร้อน แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกันว่าโครงสร้างของพื้นผิวโ ลกกำลังขยับและเปลี่ยน แปลงตัวเองโดยที่มนุษย์ไม่รู้ตัว

ที่มา นสพ.ไทยรัฐ

การที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระศาสนาว่ามีถึง 5000 ปีนั้นไม่ได้แปลว่าระยะเวลาก่อนปีพุทธศักราชที่ 5000 นั้นจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆขึ้นเลย ซึ่งหมายความว่าการล่มสลายนั้นไม่ว่าจะเป็นศาสนาหรืออารยธรรมใดๆก็ตามอาจ เริ่มต้นด้วยการเสื่อมถอยจนไปหรือการเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ทำให้ ศาสนาหรืออารยธรรมสิ้นสุดลงไปก่อนหน้าที่จะถึงปีที่มีการสิ้นสุดจริง ยกตัวอย่างว่าในปี พ.ศ. 2555 (ค.ศ. 2012) ที่จะถึงนี้ พุทธศาสนาเริ่มการล่มสลายเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ (ในกรณีที่ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นจริง) ผู้คนล้มตายกันเห็นจำนวนมหาศาล ผู้คนที่เหลือรอดชีวิตต่างแสดงความเห็นแก่ตัวเพื่อความอยู่รอดของตัวเองจน ลืมหลักคำสอนของศาสนา เป็นแบบนี้ไปจนกระทั่ง พ.ศ. 5000 พุทธศาสนาได้ล่มสลายลงไปโดยสิ้นเชิง จนกว่าจะมีการเริ่มต้นใหม่ของพระพุทธศาสนาโดยการประสูติของพระพุทธเจ้า และเริ่มนับปีพุทธศักราชใหม่ในปีที่มีการสถาปนาขึ้น (เช่น ปีพุทธศักราชเดิมเริ่มนับจากปีที่มีการสวรรคตของพระพุทธเจ้า) โดยการเริ่มนับที่ พ.ศ. 1 ทำนองนี้

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามันไม่ใช่วันที่โลกดับสลาย แต่มันเป็นช่วงมหันตวิกฤติที่อารยาธรรมของมนุษย์ล่มสลายและสิ่งมีชีวิตหลาย ชนิดหรืออาจจะทุกชนิดล้มตายเป็นจำนวนมหาศาลหรือบางชนิดที่สูญสิ้นเผ่าพันธุ์ ลง จึงมีบางส่วนที่สามารถรอดชีวิตมาได้ พร้อมกับความเชื่อทางศาสนาที่ยังคงหลงเหลืออยู่ โดยที่บางส่วนยึดถืดปฏิบัติและบางส่วนทำให้เสื่อมค่าลง เป็นแบบนี้ไปจนถึงปีที่ 5000
ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นแน่นอน

ตามบันทึกโบราณ ของชาวอียิป แต่ไม่รู้ไม่วเอากับมนุษย์ต่างได้ได้ไง
หายนะ คงไม่ใช่วันเดียว แต่ใช้เวลา

ไฟเผลาผลาญ โลกใช้เวลา โลกของเราจะเกิดสงครามครั้งใหญ่ใน ปี ค.ศ.2014 จะเกิดเหตุกาณ์สำคํญทางดาราศาตร์ โลกจะถูกหลอมละลาย ภูเขาจะถูกทำให้ราบเรียบ ภูเขาน้ำแข็งจะละลาย
แผ่นดินไหวครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นทั่วโลก สินามิเป็นเพียงผงธุรี ของเหตุการณ์การณ์นั้น
เนื่องจากมีผู้ค้นพบ บันทึก ในปิรามิด ที่ใช้เก็บเอกสารที่สำคํญ ในเอกสารนั้น
ระบุเหตุกาณ์ สำคัญของโลกเราไว้หลายอย่าง... ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา มาแล้ว
2 ครั้ง ที่ตรง คือสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ตรงในปีที่เขาบันทึกไว้ และสงครามครั้งใหญ่ที่สุด จะเป็นสงครามครั้งที่ 3 ดวงจันทร์จะสีแดงอาบไปด้วยเลือด ดวงอาทิตย์จะปกคลุมไปด้วยหมอกความมืด
ผมเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง ใน ปี ค.ศ.2014 อีก 7 ปี หลั้งจากนั้น โลกจะเต็มไปด้วยภัยวิกฤต โลกระบาด อาหารขาดแคลน คนจะชั่วร้าย อุกาบาต ดวงจะตกจากท้องฟ้า

ไม่ได้หมายความว่าชอบสงครามเพียงแต่มีเหตุการ์นั้น ...เพียงแต่ว่า มันจะเกิดขึ้น สงคราม.. การขาดแคลนอาหาร.. โรคระบาด.. แผ่นดินไหวครั้งใหญ่...
จิตใจมนุษย์จะชาเย็น แก่กล้าในความชั่ว คนจะชั่วร้าย อุกาบาต ดวงดาวจะตกจากท้องฝ้า
ปิรามิด หรืออะไรก็แล้วแล้วแต่ที่มนุษย์สร้างขึ้นมาด้วยมือตัวเอง ไม่มีอะไรศักดิ์สิทธิ์ แต่อยู่ที่เนื้อหา ความเป็นจริง
ที่เขียนก็ไม่เคยไปบอกกล่าวที่ไหนหรอกนะ ก็มีทีนี่ที่เดียว ถามว่าได้อะไรไหม ไม่ได้อะไรทั้งสิ้น เสียเวลาไหม เสีย
เป็นประโยชน์กับคนอื่นไหมก็แล้วแต่ใครจะค้นหาคำตอบต่อไป ไม่ได้หวังหรือขอให้ใครมาเชื่อ เพียงอยากจะบอกกับคนที่มีสติปํญญา
ที่เป็นนักดาราศาตร์ไทย หรือ...ได้รู้ ว่าจะเกิดเหตุการณ์ทางดาราศาสตร์อะไรบ้าง เป็นไปได้อย่างไรที่ดวงอาทิตย์จะถูกทำให้มืด
ดวงจันทร์จะอาบไปด้วยเลือด ( สีแดง ) เป็นเรื่องที่ตามองดูด้านล่าง ที่ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่น หรืออะไรก็แล้วแต่...ที่คนโบราณเห็นภาพ
เขาก็ใช้อะไรที่สื่อให้เห็น เช่น เขาเห็นรถไฟ ในสมัยของขาไม่มีรถไฟ เขาก็บันทึกว่าม้าเหล็ก เขาเห็น.เครื่องบิน เขาก็บันทึกว่าเหมือนฝูงตั๊กแตน
เห็นปรมณู..ก็บันทึก ว่าหัวมันแหลมเหมือนธนู มันพรุ่งออกมาจากพื้นดิน
.สงคราม
2.ขาดแคลนอาหาร..
3.โรคระบาด..
4.ภัยพิบัติ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่
5.สงครามครั้งใหญ่ ครั้งที่3
6.ดวงดาวจะตกจากท้องฟ้า ( อุกาบาต )
7.แผ่นดินจะมีพื้นเดียวกัน เหมือนดังที่เคยเป็น
8.จะมีเมืองหลวงใหญ่ 2 เมือง
...
...โลกจะจะไม่แตก แน่นอน .

แต่ที่ผิวเปลือกโลก จะเกิดเคลื่อนตัว ซึ่งก็คือแผ่นดินไหว

เมืองหลวงใหญ่ๆหลายเมิอง ไม่ต้องนึกถึง ราบ เป็นหน้ากอง

แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นโดย...

ไม่จำเป็นที่จะเป็นที่ เฉพาะรอยเคลื่อนของเปล์อกโลก

จะเกิดขึ้นที่ใดก้ได้.. เพราะทุกที่ มีแรง พลังส่ง ถึงกันได้
เหมือนกับเวลาเราเปล่าลูกโป่งที่หนึ่ง มันก็จะไปดันอีกที่หนึ่ง ที่ใดก็ได้ ที่เราไม่คลาดคิด ที่ ที่เราคิดว่าจะไม่เกิดแผ่นดินไหว มันก็เกิดขึ้นก็ได้ ที่ ที่เราคิดว่า ไม่เกิด ก็สามารถเกิดได้

ทุกที่พร้อมแล้วที่จะเกิด...

ความดีของมนุษย์เท่านั้น ที่จะรักษา ปกป้อง ป้องกันไว้ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น