22 ตุลาคม 2553

ท็อป10 แข้งเศรษฐี

ท็อป10 แข้งเศรษฐี
วันที่ 10/8/2010 10:21:33 PM



© AP Images
หลังจากที่ได้ทราบ 10 สุดยอดมหาเศรษฐีเจ้าของทีมและผู้ถือหุ้นของสโมสรต่างๆ กันไปแล้ว วันนี้ก็มาถึงคิวของนักเตะที่รวยที่สุดจากรายงานของแม็กกาซีนลูกหนัง 4-4-2 กันบ้าง


10 นักเตะที่รวยที่สุด

(เฉพาะนักเตะสัญชาติสหราชอาณาจักรหรือที่มาเล่นในเกาะอังกฤษเท่านั้น)


1. เดวิด เบ็คแฮม (แอลเอ แกแล็คซี่ : 100 ล้านปอนด์ : 5,000 ล้านบาท)
(ทรัพย์สินรวมปีที่แล้ว 125 ล้านปอนด์)

ถึงจะอยู่ในช่วงปลายการค้าแข้งแต่ชื่อของซูเปอร์สตาร์วัย 35 ปี ยังขายได้อยู่เสมอ และแม้ว่าทรัพย์สินจะลดลงจากปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด แต่ เบ็คแฮมและ วิคตอเรีย ศรีภรรยา ก็ยังเหลือกินเหลือใช้ไปอีกสิบชาติได้สบายๆ เพราะนอกจากค่าเหนื่อยก้อนโตที่เคยได้จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด และแอลเล แกแล็คซี่ ต้นสังกัดปัจจุบันแล้ว อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ ยังมีรายรับมหาศาลจากการเป็นพรีเซนเตอร์ของสินค้าชั้นนำต่างๆ รวมถึงบริษัทน้ำหอมและแบรนด์แฟชั่นของทั้งตนเองและภรรยาด้วย

2. ไมเคิ่ล โอเว่น (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : 40 ล้านปอนด์ : 1,200 ล้านบาท)
(ทรัพย์สินรวมปีที่แล้ว 38 ล้านปอนด์)

หลังจากที่ย้ายมาเล่นให้ "ปีศาจแดง" โอเว่น ก็ได้ค่าเหนื่อยแบบนัดต่อนัด ซึ่งต่างจากที่เคยได้ถึง 110,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (ราว 5.5 ล้านบาท) จากนิวคาสเซิ่ล อย่างไรก็ตาม อดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ก็ยังอยู่หัวแถวของนักเตะที่ล่ำซำที่สุดเนื่องจากอาศัยบุญเก่าที่เคยได้เงิน จำนวนมากจากสปอนเซอร์สมัยที่ยังรุ่งๆ กับลิเวอร์พูลและเรอัล มาดริด ไม่ว่าจะเป็นการเป็นพรีเซนเตอร์ของซีเรียลเนสท์เล่, นาฬิกา Tissot, รถจากัวร์, ผลิตภัณฑ์กีฬาอัมโบร และยังมีบริษัทโอเว่น โปรโมชั่นส์ ของตัวเองด้วย

3. ริโอ เฟอร์ดินานด์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : 34 ล้านปอนด์ : 1,700 ล้านบาท)
(ทรัพย์สินรวมปีที่แล้ว 30 ล้านปอนด์)

กองหลังตัวเก่งเจอปัญหาบาดเจ็บรบกวนอย่างต่อเนื่อง แต่โชคดีที่ เฟอร์ดินานด์ ยังมีรายรับสัปดาห์ละ 120,000 ปอนด์ (ราว 6 ล้านบาท) จากปีศาจแดงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งค่าเซ็นสัญญาเป็นหนึ่งในพรีเซนเตอร์ของรองเท้าสตั๊ดไนกี้ที่ทำเงิน ให้จำนวนมากโดยที่แทบไม่ต้องออกแรง ทว่า หลายคนอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนว่าเซนเตอร์ฮาล์ฟรายนี้มีหุ้นในค่ายเพลงชื่อ ไวท์ ชอล์ค ถึง 60% ซึ่งเจ้าตัวหวังว่าจะกลายเจ้าของค่ายเพลงผู้ทรงอิทธิพลบ้าง แต่น่าเสียดายที่ธุรกิจนี้แป้กอย่างจัง

4. โซล แคมป์เบลล์ (นิวคาสเซิ่ล : 31 ล้านปอนด์ : 1,550 ล้านบาท)
(ไม่มีรายงานเมื่อปีที่ผ่านมา)

หลายคนอาจจะไม่เชื่อสายตาที่เห็นชื่อของเซนเตอร์ฮาล์ฟจอมเก๋าอยู่ใน อันดับที่ 4 แต่ด้วยความที่แคมป์เบลล์ ค้าแข้งอาชีพมานาน ทำให้เขายังมีเงินทองและทรัพย์สินอีกเป็นกองพะเนิน โดยล่าสุด เจ้าตัวเซ็นสัญญาร่วมทีมนิวคาสเซิ่ลเป็นเวลา 1 ฤดูกาล รายได้ของอดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษมาจากการได้ค่าเหนื่อยถึง 5 ล้านปอนด์ต่อปี (ราว 250 ล้านบาท) สมัยที่ย้ายจากท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ มาอยู่กับอาร์เซนอล แบบไม่มีค่าตัวตามกฎบอสแมนเมื่อปี 2001
เมื่อเดือน ม.ค. 2010 แคมป์เบลล์ ฟ้องร้องพอร์ทสมัธที่ไม่ยอมจ่ายค่าลิขสิทธิภาพลักษณ์และโบนัสอื่นๆ ให้กับเขาเป็นเงิน 1.7 ล้านปอนด์ (ราว 85 ล้านบาท) นอกจากส่วนของฟุตบอลแล้ว กองหลังรายนี้ยังมีบ้านราคากว่า 10 ล้านปอนด์ในกรุงลอนดอน และบริษัทส่วนตัวที่ชื่อโซล แมน จำกัดด้วย

5. ไรอัน กิ๊กส์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : 27 ล้านปอนด์ : 1,350 ล้านบาท)
(ทรัพย์สินรวมปีที่แล้ว 24 ล้านปอนด์)

ปีกพ่อมดของ "ปีศาจแดง" ลงเล่นให้ต้นสังกัดมาแล้วกว่า 800 นัดและมีสัญญาในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปจนจบฤดูกาลหน้า และนั่นก็จะทำให้ กิ๊กส์ อยู่กับทีมชุดใหญ่ของแมนฯ ยูฯ มากว่า 20 ปี และนั่นทำให้สโมสรตอบแทนความจงรักภักดีของเขาด้วยการให้ค่าเหนื่อย 4.2 ล้านปอนด์ต่อปี (ราว 210 ล้านบาท) นอกจากนั้น กิ๊กซี่ ยังเป็นพรีเซนเตอร์ให้รีบอคมาหลายปีดีดัก ในขณะที่ บริษัทไรอัน กิ๊กส์ จำกัดก็ทำให้รายได้ให้ดาวเตะทีมชาติเวลส์ไม่น้อยเช่นกัน

6. เวย์น รูนี่ย์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : 25 ล้านปอนด์ : 1,250 ล้านบาท)
(ทรัพย์สินรวมปีที่แล้ว 37 ล้านปอนด์)

ดูเหมือนว่า 2010 จะไม่ใช่ปีทองของรูนเท่าใดนัก เพราะนอกจากจะโชว์ฟอร์มไม่ออกในศึกฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้แล้ว หัวหอกทีมชาติอังกฤษ ยังเจอวิกฤติครอบครัวหลังถูกโสเภณีรายหนึ่งออกมาแฉผ่านสื่อจนเป็นข่าวครึก โครมไปทั่วโลกว่าสตาร์ "ปีศาจแดง" ซื้อบริการจากเธอนานหลายเดือนระหว่างที่ คอลีน ผู้เป็นภรรยากำลังตั้งครรภ์

เฉพาะการเป็นพรีเซนเตอร์ให้โคคา-โคล่า, บริษัทเกมอีเอ สปอร์ตส, ไนกี้และเมอร์เซเดส ก็ทำเงินให้รูนี่ย์ปีละ 6 ล้านปอนด์ (ราว 300 ล้านบาท) แล้ว นอกจากนั้น ยังได้ค่าเหนื่อยจากแมนฯ ยูฯ สัปดาห์ละ 100,000 ปอนด์ และกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาขอเพิ่มเป็น 130,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ด้วย

7. สตีเว่น เจอร์ราร์ด (ลิเวอร์พูล : 22 ล้านปอนด์ : 1,100 ล้านบาท)
(ทรัพย์สินรวมปีที่แล้ว 20 ล้านปอนด์)

กัปตันทีมหงส์แดง มีรายรับ 6.5 ล้านปอนด์ต่อปีจากสโมสร ทั้งค่าเหนื่อยและโบนัสต่างๆ นอกจากนั้น การเซ็นสัญญากับอาดิดาสและลูคอเซด ยังทำเงินให้ เจอร์ราร์ด อีกปีละ 750,000 ปอนด์ด้วย ซึ่งนั้นทำให้เขามีรายได้รวมต่อปีราว 9 ล้านปอนด์ (ราว 450 ล้านบาท) จากการรายงานของฟอร์บส์ แม็กกาซีน

มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเมอร์ซีย์ไซด์และดูไบ รวมทั้งมีบริษัทเป็นของตัวเองที่ชื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด โปรโมชั่นส์ ซึ่งทำให้เขามีรายได้เพิ่มขึ้นมาอีก 2 ล้านปอนด์จากปีที่แล้ว

7. แฟรงค์ แลมพาร์ด (เชลซี : 22 ล้านปอนด์ : 1,100 ล้านบาท)
(ทรัพย์สินรวมปีที่แล้ว 21 ล้านปอนด์)

ในช่วงซัมเมอร์ปี 2008 กองกลางทีมสิงโตคำรามจรดปากกาสัญญากับเชลซีออกไปอีก 5 ปี คิดเป็นมูลค่า 33 ล้านปอนด์ (ราว 1,650 ล้านบาท) และยังได้รับค่าเหนื่อยสูงถึง 140,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (ราว 7 ล้านปอนด์) บวกกับอีก 1 ล้านปอนด์ต่อปีจากสปอนเซอร์อย่างอาดิดาส

แลมพาร์ด วัย 32 ปี มีบริษัทของตัวเอง 3 บริษัทซึ่งรวมถึงแฟรงค์ แลมพาร์ด โปรโมชั่นส์ ด้วย

9. จอห์น เทอร์รี่ (เชลซี : 19 ล้านปอนด์ : 950 ล้านบาท)
(ทรัพย์สินรวมปีที่แล้ว 18 ล้านปอนด์)

กัปตันทีมสิงห์บลูส์ เจอปัญหาข่าวฉาวรุมเร้าหลังแอบนอกใจภรรยาไปกิ๊กกับอดีตแฟนเพื่อนอย่าง เวย์น บริดจ์ จนถึงขั้นทำให้โดนริบปลอกแขนกัปตันทีมชาติอังกฤษ อย่างไรก็ตาม เจที ยังเป็นที่รักของสาวกเชลซีหลังจากที่เขาปฏิเสธค่าเหนื่อย 250,000 ปอนด์ (ราว 12.5 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่ออยู่ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ และรับค่าเหนื่อย 160,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์แทน
เทอร์รี่ ทำสัญญากับสโมสรไว้ว่าเมื่อเขาแขวนสตั๊ดจะได้รับการจัดเทสติโมเนียลแมตช์ และนั่นการันตีเงิน 2.5 ล้านปอนด์สำหรับเซนเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่งด้วย


10. ปาทริค วิเอร่า (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : 18 ล้านปอนด์ : 900 ล้านบาท)
(ไม่มีรายงานจากปีที่แล้ว)

ดาวเตะชาวฝรั่งเศส ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลกสมัยที่เล่นให้อา ร์เซน่อล ก่อนที่จะย้ายไปหาประสบการณ์ในลีกกัลโช่ เซเรีย อา กับยูเวนตุสและอินเตอร์ ที่ซึ่งเขาได้ค่าเหนื่อยประมาณ 90,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (ราว 4.5 ล้านบาท) แต่การย้ายทีมครั้งล่าสุดมาเล่นให้ "เรือใบสีฟ้า" ทำเงินให้ "ปั๊ต" สูงถึง 140,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 6 เดือน




ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 10/11/2010 10:23:02 PM

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น