05 กรกฎาคม 2552

อาการกั๊กมันฟ้องอยู่

อาการกั๊กมันฟ้องอยู่

Pic_17032

????????อภิสิทธิ์ ???????????????????เนวิน

คนอีสานเกลียดพรรคประชาธิปัตย์จริงๆ

จุด ชนวนจากประโยคร้อนๆข้างต้นนี้แหละ ที่มีข่าวรายงานในหน้าหนังสือพิมพ์ว่า เป็นการวิเคราะห์ของคนประชาธิปัตย์ด้วยกันเอง จากผลพวงภายหลังคนของพรรคเพื่อไทยเข้าป้ายในสนามเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัด สกลนครและจังหวัดศรีสะเกษ

ปฏิเสธความจริงไม่ออก

ตอกย้ำด้วย คิวของนายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย ที่ออกมาแฉเงื่อนไขลับตั้งแต่เริ่มเจรจาพลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์รู้ดีว่าเข้าอีสานไม่ได้ ไปแล้วชาวบ้านลำบากใจ จึงมอบหมายให้ค่ายภูมิใจไทยทำหน้าที่เจาะพื้นที่อีสานแทน

แผนลึกที่คนประชาธิปัตย์ฟังแล้วอดสูใจ

โดย เฉพาะทีมงานสายอีสาน นำทีมโดยรุ่นเก๋าอย่างนายสุทัศน์ เงินหมื่น สายของนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ถึงกับนั่งไม่ติด ทนฟังไม่ได้

ฮึดประคองศักดิ์ศรี ประกาศภาคอีสานยกให้ใครไปทำแทนไม่ได้

คนประชาธิปัตย์ในสายของ "บัญญัติ" ขอลุยเอง

ในภาพความตื่นตูมของคนประชาธิปัตย์ที่นั่งไม่ติดกับกระแสคนอีสานเกลียดยี่ห้อ ปชป. "ปมด้อย" ที่ถูกโหมกระพือขึ้นมา

ตอกย้ำจุดอ่อนให้ยิ่งไหลลึกไปกันใหญ่

ประ ชาธิปัตย์เลยต้องรีบดึงกระแส เบื้องต้นเลยก็คือ การปล่อยโปรแกรมล่วงหน้า กำหนดคิวให้ "พระเอก" อย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ภาคอีสาน

และก็เป็นนายกฯอภิสิทธิ์ที่ยืนยันเองว่า ในเดือนกรกฎาคมนี้ จะลงพื้นที่จังหวัด บุรีรัมย์เป็นที่แรก เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมในเรื่องโครงการแผนไทยเข้มแข็ง

แต่ไม่วายกั๊ก ไม่ได้เป็นการอาศัยบารมีของนายเนวิน ชิดชอบ "ครูใหญ่" ค่ายภูมิใจไทย ในฐานะเจ้าของพื้นที่แต่อย่างใด

และโดยอาการกั๊กกันไปกั๊กกันมานี่แหละ มันชักยังไงๆ

เพราะ มันเป็นอะไรที่ต่อเนื่องกับคิวลับๆล่อๆ กับข่าวที่นายกฯอภิสิทธิ์ และ "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ผู้จัดการใหญ่รัฐบาล ได้ต่อสายส่งเทียบเชิญนายเนวินไปนั่งกินข้าวเคลียร์หัวใจกันที่บ้านพิษณุโลก เมื่อเที่ยงวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา

โดยที่ไม่มีใครเห็นจะจะว่า นายเนวินแวบเข้าบ้านพิษณุโลกตอนไหน

แต่ ก็เป็นนายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ที่ยอมรับกับนักข่าวว่า นายกฯอภิสิทธิ์ได้ต่อสายนัดนายเนวินมากินข้าวเที่ยงที่บ้านพิษณุโลกจริง

อย่าง ไรก็ตาม ล่าสุดก็เป็นนายศุภชัยคนเดียวกันที่ออกมาปฏิเสธในวันถัดมาว่า จากการสอบถามนายเนวินแล้ว ยืนยันว่า ไม่ได้เดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันกับนายกรัฐมนตรีที่บ้านพิษณุโลกแต่ อย่างใด เป็นเรื่องที่สื่อเข้าใจผิดไปเอง

และสุดท้ายก็เป็นนายกฯ อภิสิทธิ์ยอมรับว่า การรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับนายเนวินที่บ้านพิษณุโลก ไม่มีนัยทางการเมือง และไม่มีการเคลียร์ปัญหาคาใจเรื่องโครงการต่างๆของพรรคภูมิใจไทย

แต่เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลเป็นไปโดยมีเอกภาพ และร่วมกันหาทางแก้วิกฤติต่างๆเพื่อประโยชน์ของประชาชนมากขึ้น

ฝ่ายหนึ่งปิด ฝ่ายหนึ่งเปิด

โดยทางข่าวที่ตั้งใจให้หลุดออกมาจากฝ่ายประชาธิปัตย์ซะเป็นส่วนใหญ่

ที่ แน่ๆ กับรายงานข่าวเบื้องหลังบนโต๊ะอาหารที่ระบุว่า นายกฯอภิสิทธิ์ได้บอกกับนายเนวินตามตรงว่า ไฟเขียวโปรเจกต์รถเมล์เอ็นจีวีให้ผ่าน ครม.ไม่ได้ โดยที่นายเนวินก็พยักหน้ารับแต่โดยดีว่า "ผมเข้าใจ"

เราต้องทำงานร่วมกันไปอีกนาน

ล่า สุด นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ลูกน้องสายตรงของนายเนวิน แสดงความแปลกใจกับข่าวที่นายเนวินได้ไปรับประทานอาหารเที่ยงกับนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพิษณุโลก โดยยืนยันว่า ไม่ทราบเรื่องมาก่อน และนายกรัฐมนตรี รวมทั้งนายเนวินก็ไม่ได้ชวน

ส่วนกระแสข่าวนายกรัฐมนตรีได้ขอร้อง นายเนวินให้ระงับโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน และนายเนวินรับปากแสดงความเข้าใจนั้น ก็ไม่ทราบเช่นกัน

"แต่คงไม่ยอมให้ล้มแน่ เพราะหากล้มก็ต้องเสียหน้า"

ตั้งท่าอาละวาดเต็มเหนี่ยว เฮี้ยวเต็มที่

มันก็น่ากังขา ถ้ายอมหมอบแต่โดยดี มีหรือที่เด็กในคาถาอย่างนายโสภณจะกล้าเสียงแข็งสวนทางลูกพี่ใหญ่อย่าง "เนวิน"

หรือหากจะมองว่า แค่เล่นบทรักษาฟอร์มรักษาหน้าให้ดูสมจริงสมจัง ก็ต้องยกตุ๊กตาทองให้

แต่ดูยังไงก็เหมือนฉุนที่ลูกพี่โดนตีกินซะมากกว่า.

ทีมข่าวการเมือง Thairathรายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น