13 มิถุนายน 2552

เหนื่อยไหม

เหนื่อยไหม
เห็นน้ำตาของเธอในวันนี้
ฉันเพื่อนซื้ของเธอทนไม่ไหว
เฝ้ามองดูห่างห่างอย่างห่วงใย
ยังไม่มีวันไหนเห็นรอยยิ้มเธอ

อยากจะถามเขาดีที่ตรงไหน
เธอจึงได้ยอมเขาอยู่เสมอ
ตั้งแต่คบกันมายังไม่เจอ
วันที่เธอหัวเราะอย่างจริงใจ

เจอกี่ครั้งก็ยังมีเรื่องให้ปลอบ
หาคำตอบทำให้เธอนั้นสดใส
เหมือนหลอกลวงตัวเธออยู่ร่ำไป
ตื่นได้ไหมออกมาจากฝันร้ายที

จากนี้ไปไม่ต้องทนอีกได้ไหม
ลาให้ไกลคนใจร้ายต้องหลบหนี
ทนทำไมเมื่อเขานั้นไม่ดี
ไม่เคยมีสักครั้งคอยห่วงใย

มีแต่เรื่องให้เธอต้องเจ็บช้ำ
คอยตอกย้ำให้เธอไม่สดใส
มีความทุกข์มากมายอยู่ในใจ
ขอได้ไหมรักตัวเองบ้างสักครา

ยังมีใครหลายคนเป็นห่วงนัก
อยากให้ผลักคนไม่ดีไม่ห่วงหา
ผลักออกไปให้พ้นจากสายตา
เริ่มต้นใหม่จะดีกว่าเลิกอ่อนแอ

ไม่เหนื่อยบ้างหรืออย่างไรเป็นแบบนี้
อยากหลบลี้บ้างไหมรักษาแผล
อยากให้เธอรู้สึกรักและแคร์
และเห็นแก่ตัวเองบ้างได้ไหมเธอ





.

.

ความจริงใจมีไหมโลกใบนี้
ความจริงใจหรืออาจมีอยู่ที่นั่น
แลเลื่อมลายกลางสายหมอกระลอกควัน
ณ ที่ฉันแอบรักหมายใช่บางที

ถามแบบนี้ฤดีกลับยิ่งสับสน
ระหว่างคนหนหลังครั้งก่อนนี้
คอยดูแลและไถ่ถามทุกยามมี
ว่ามิมีรักบ้างหรืออย่างไร

ยังถามว่าคนดีมีกี่ฝัน
และถามฉันว่าคนดีมีรักไหม
รักนิยามท่ามสายหมอกและดอกไฟ
ฝันยามไกลในนภาดูพร่าเลือน

เป็นนกไฟในวันฝันลาลับ
ดังฟ้าดับดาวลอยเดือนคล้อยเคลื่อน
วันคนดีในฝันนั้นมาเยือน
พร้อมถามเตือนเรื่องราวรักเฝ้าถักทอ

รู้คราใดใจหม่นคนคนนั้น
กับความฝันนกไพรวันใดหนอ
ในวันที่ฝันไกลยังไม่พอ
จึงแทบท้อทอใจฝันวันต่อวัน

เธอถามว่าคนดีมีรักไหม
ฉันถามใครต่อได้เล่าทุกเฝ้าฝัน
หรือทิวาวารผ่านวานตะวัน
ให้ถามจันทร์ยามพร่างหว่างราตรี

อยากไถ่ถามนิยามกลับกับเธอบ้าง
ยามอยู่ไกลใจว่างบ้างไหมนี่
แล้วรักละที่เคยหวังยังพอมี
ในฤดีมีใครครองห้องใจยัง

มีบางใครในรักถักบ้างไหม
ในห้วงใจมีใครบ้างไหมหวัง
ไยไม่กลับมารับห่วงในรวงรัง
กลับคืนยังแดนฉันยังฝันรอ


.....................

นกไฟ คนกุลา


.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น